เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นผิวผสม ?
ผิวผสม (Combination Skin)
ผิวผสมคือ ในผิวผสมสภาพผิวจะมีความแตกต่างกันในบริเวณที่เป็น T-zone และ บริเวณแก้มสาเหตุของผิวผสม บริเวณที่มีผิวมันของผิวผสม เกิดจากการผลิตน้ำมันที่มากเกินไป ส่วนบริเวณผิวมันบริเวณ T-Zone (หน้าผากคางและจมูก) และผิวแห้งบริเวณแก้มบ่งบอกถึงผิวผสม ที่ผิวแห้งเกิดจากการขาดน้ำมัน และสมดุลไขมันผิดปกติ
ลักษณะของผิวผสมจำแนกได้จาก:
- มันบริเวณทีโซน (หน้าผากคางและจมูก)
- รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้นในบริเวณนี้อาจจะมีสิ่งสกปรกอุดตัน
- ปกติบริเวณแก้มจะแห้ง
การประเมินประเภทของผิว และสภาพผิว (Evaluation skin type and condition)
ประเภทของผิวที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงสภาพผิวสามารถแตกต่างกันได้มากในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ปัจจัยภายในและภายนอกหลายอย่างที่เป็นตัวกำหนดสภาพผิว ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ มลพิษ ยา ความเครียด รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรม ที่มีผลต่อระดับของความมัน เหงื่อและปัจจัยความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่แต่ละบุคคลเลือกใช้จึงควรเลือกให้ตรงกับสภาพผิว
แพทย์ผิวหนังและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวอื่น ๆ จำแนกประเภทผิวของบุคคลโดยวัดจากปัจจัยต่อไปนี้
สัญญาณของริ้วรอย ประเภทผิวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงชีวิตของเรา ผู้ที่มีสภาพผิวมันในช่วงวัยรุ่น อาจพบได้ว่าผิวของพวกเขากลายเป็นผิวแห้งหลังพ้นช่วงวัยรุ่น และผู้ที่มีสภาพผิวปกติอาจพบได้ว่าผิวกลับแห้งขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นในทุกอายุของผิวแต่ละประเภท ผิวสามารถสูญเสียความยืดหยุ่นและความหนาแน่นได้ เกิดเป็นริ้วเล็กๆ และริ้วรอยปรากฏขึ้น รวมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี การทำความเข้าใจและการสังเกตุสัญญาณของริ้วรอยเหล่านี้จะช่วยให้เราตรวจสอบสภาพผิวของเราได้
สีผิว สีผิวและเชื้อชาติมีอิทธิพลต่อวิธีการที่ผิวของเราตอบสนองต่อปัจจัยภายนอก เช่นแสงแดด, ความผิดปกติของการสร้างเม็ดสี, การระคายเคือง และการอักเสบ สีผิวพื้นฐานจะถูกกำหนดโดยความหนาแน่นของชั้นหนังกำพร้า และการกระจายของ เมลานิน อ่านเพิ่มเติมใน skin ethnics นอกจากนี้สีแดงของผิวยังเป็นประโยชน์ในการบ่งบอกสภาพผิว แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของการไหลเวียนเลือด และช่วยในการระบุสภาวะบางอย่างเช่น ผิวผื่นแดง (Couperose) และ โรคหน้าแดง (โรซาเซีย: Rosacea)

ความมันและเหงื่อ ปริมาณของไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันใต้ผิว ควบคุมประสิทธิภาพของกลไกการปกป้องผิว และเป็นผลของสภาพผิวที่แตกต่าง การผลิตน้ำมันที่มากเกินไปจะนำไปสู่ผิวมันเป็นสิวได้ง่าย ในขณะที่การผลิตน้ำมันน้อยเกินไปก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งปริมาณของไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันใต้ผิว ควบคุมประสิทธิภาพของกลไกการปกป้อง และเป็นผลของสภาพผิวที่แตกต่าง การผลิตน้ำมันที่มากเกินไปจะนำไปสู่ผิวมันเป็นสิวได้ง่าย
ปัจจัยความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (NMFs: Natural moisturising factors)

ผิวผสม เป็นสภาพผิวอีกประเภทหนึ่งที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษเพราะจะมีผิวมัน และ มองเห็นรูขุมขนกว้าง ในบริเวณ ที-โซน (T-ZONE)ขณะเดียวกันก็มีผิวธรรมดาถึงผิวแห้งบริเวณข้างแก้ม ซึ่งโดยปกติแล้วผิวที่มีสุขภาพดีไม่ควรมันมากและแห้งมากในเวลาเดียวกันทำให้ผู้ที่มีลักษณะผิวเช่นนี้ จึงดูแลผิวหน้าได้ยากปัญหาผิวที่พบได้ คือ ปัญหาสิวบริเวณ หน้าผาก จมูกและคาง และสิวเสี้ยน
การดูแลผิวผสม สำหรับผิววัยต่ำกว่า 30 ปี เนื่องจาก ผิวผสม จะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามสภาพแวดล้อมดังนั้น ต้องมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวที่ใช้อยู่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวในช่วงเวลานั้นๆ บางครั้งอาจต้องใช้ ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันในบริเวณที่มีความต้องการแตกต่างหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีผิวผสมโดยเฉพาะ
การดูแลผิวผสม สำหรับวัย 30 ปีขึ้นไปอาจเน้นใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวนอกบริเวณที-โซนมากกว่าเดิมหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้มากยิ่งขึ้น