Open : 10:00-19:00 ทุกวัน
95, 97 ถ.มหาดไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา

“ฝ้า กระ ” ปัญหาที่หลายคนอยากรู้

“ แสงแดดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด โดยรังสียูวีเอและยูวีบีในแสงแดดเป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นให้เกิด ฝ้า อีกทั้งยังมีเรื่องของฮอร์โมน โดยเฉพาะในสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ รวมทั้งปัจจัยทางกรรมพันธุ์ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
19
Sep

“ฝ้า กระ ” ปัญหาที่หลายคนอยากรู้

ปัญหาสุดกลุ้มของผิวพรรณ ที่เรียกได้ว่าเป็นญาติสนิทกับรอยกระ เพราะกระบวนการเกิดนั้นคล้ายคลึงกันมาก ฝ้า คือเม็ดสีในผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้นมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดปื้นสีน้ำตาลเป็นรอยคล้ำ บางคนสีอ่อนบางคนสีเข้ม แตกต่างกันไป แต่ฝ้าจะมีบริเวณที่กว้างกว่า มองเห็นได้ชัดกว่า สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของใบหน้าส่วนใหญ่แล้วมักจะมีฝ้าบริเวณโหนกแก้ม  เหนือริมฝีปาก หน้าผาก โดยตัวเลขเฉลี่ยของคนที่เป็นฝ้าส่วนใหญ่จะเริ่มจากวัย 30 ปีขึ้นไป

นอกจากนี้ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันเช่น คนที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ต้องโดนรังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ บางคนอาจจะทำอาหารต้องอยู่หน้าเตาไฟบ่อย ๆ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนก็มีผลทำให้เกิด ฝ้า ได้ทั้งสิ้น ” เป็นปัญหาผิวที่แก้ยากที่สุดชนิดหนึ่ง และบั่นทอนความมั่นใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ถึงช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการที่ผิว และต้องเผชิญแสงแดดตลอด ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เม็ดสีเมลานินถูกกระตุ้น ฝ้า กระ ก็จะเป็นมากขึ้น จนบางครั้งเกิดเป็นฝ้าถาวร

สาเหตุการเกิดฝ้า

               ฝ้าเกิดจากอะไรฝ้า หรือ Melasma เกิดจากการที่เม็ดสีผิวหรือเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ทำงานมากเกินไป จึงทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เนื่องมาจากเจ้าเม็ดสีเมลานินนั้นมีหน้าที่กรองรังสียูวี เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นตามไปด้วย โดยรังสีที่มีผลต่อการเกิดฝ้าคือ “รังสี UVA” ซึ่งรังสียูวีเอจะมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสียูวีบี จึงสามารถทำลายผิวได้ลึก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อตากแดดนาน ๆ แล้วผิวถึงคล้ำเสียได้ และนอกจากแสงแดดแล้ว เรื่องของการใช้เครื่องสำอางบางชนิด การทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด รวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน

ฝ้า ต่างจาก กระเพราะฮอร์โมน” ถ้าเป็นกระส่วนใหญ่จะเกิดจากแสงแดด ความร้อน และอายุ

แต่ในกรณีของฝ้า มักจะมีปัจจัยฮอร์โมน เข้ามาค่อนข้างเยอะ เช่น มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็วตอนตั้งครรภ์

รวมไปถึงการที่ฮอร์โมนลดลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน อย่างช่วงการเข้าสู่วัยทอง และวัยหมดประจำเดือน

ประเภทของฝ้า

  • ฝ้าแดด คือ เกิดจากรังสียูวีที่มาจากแดด ซึ่งแดดในประเทศไทยจะมีรังสียูวีสูงมาก หรือจากแสงไฟจอคอมพิวเตอร์ และจอมือถือของคุณเอง
  • ฝ้าเลือด คือ ฝ้าที่มีลักษณะเป็นรอยแดง คล้ายเส้นเลือด มีสีแดงปนน้ำตาล มักเกิดจากความผิดปกติของเลือดลม ฮอร์โมนแปรเปลี่ยนในร่างกาย
  • ฝ้าฮอร์โมน คือ ฝ้าที่เกิดเกิดจากเซลล ์การสร้างเม็ดสีี ทำงานมากขึ้น เช่นในภาวะตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน หรือการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน
  • ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้โดยใช้เวลาไม่นาน
  • ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ความลึกของมันจะทำให้เกิดการแสดงสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง เป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก การทายามักให้ผลเพียงแค่ทำให้ดูจางลงเท่านั้น

วิธีรักษาฝ้า

  1. การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด คุณควรเริ่มต้นจากการหลีกเลี่ยงแสงแดด ถ้าหากต้องเผชิญแสงแดดก็ควรแต่งกายแบบไม่เผยผิวพร้อมกับทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวี โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA+++ ด้วย ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าต้องอยู่ภายใต้แสงแดดตลอดทั้งวัน คุณอาจเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากกว่านี้ แต่ให้หมั่นทาครีมกันแดดบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังมีประสิทธิภาพดีพอต่อการป้องกันแสงแดด ส่วนไอร้อนจากเตา รังสีจากหน้าจอคอมพ์ ก็เป็นเหตุทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน ดังนั้นเลี่ยงได้ควรเลี่ยงเลย นอกจากนี้คุณควรสังเกตตัวเองด้วยว่าเรารับประทานยาอะไรที่เสี่ยงต่อการเกิดฝ้าหรือเปล่า เช่น ยาคุมกำเนิด ใช้เครื่องสำอางอะไรแล้วแพ้จนเป็นรอยคล้ายฝ้าหรือไม่ (ส่วนมากแล้วจะเป็นเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอมจะเป็นตัวการทำให้เกิดฝ้าลึก รวมไปถึงครีมทาผิวประเภทไวเทนนิ่งที่มีส่วนผสมของสารอันตรายอย่างสาร “ไฮโดรควิโนน“)
  2. ดูแลตัวเองจากภายใน นอกจากการทายา ทำทรีตเมนต์ รวมไปถึงการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ในระหว่างการรักษาเราสามารถดูแลตัวเองจากภายในได้โดยการรับประทานทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่ขึ้นนั่นเอง
  3. ใช้ครีมบำรุง (ครีมรักษาฝ้า) การเลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA, วิตามินซี, อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic) รวมไปถึงครีมทาฝ้า ครีมแก้ฝ้า หรือครีมรักษาฝ้าต่าง ๆ ก็สามารถทำให้ฝ้าจางลงและทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลานานหน่อยเท่านั้น

อายุมากขึ้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นฝ้าอย่างแน่นอน เพราะอายุที่มากขึ้นย่อมได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ มากขึ้น เช่น ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง การถูกแสงแดด การถูกรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ ยิ่งสะสมทำให้กระตุ้นการเกิดฝ้าได้มากขึ้น ตามอายุที่เพิ่มขึ้น

 

https://mamynaka.files.wordpress.com/2015/04/1399177807.gif

https://mamynaka.files.wordpress.com/2015/10/tumblr_inline_n2xuvywzwt1qid2nw.gifติดต่อสอบถามได้ที่่
เนรมิตคลินิก สาขาหน้าศาลากลางโคราช
โทร. 044-341440 , 081-9557165
เนรมิตคลินิก สาขาหน้าเดอะมอลล์โคราช
โทร. 044-259440 , 081-7251152
Line : @neramit
clinic
หรือ inbox สอบถามข้อมูลที่
m.me/neramitclinic
www.neramitclinic.com
Good looks bring you good lucks !!