Treatment Info
Treatment Detail
นอกจากสิวอุดตันหรือสิวอักเสบแล้ว!! สิวเสี้ยนก็เป็นสิวอีกประเภทที่เปรียบเสมือนกองกำลังของชนกลุ่มน้อย ที่ไม่มีพิษสงและขีปณาวุธที่จะจู่โจมใบหน้าให้ยับเยินเช่นสิวอักเสบ แต่ก็ก่อความรำคาญให้ได้ไม่หยุดหย่อน เพราะสิวเสี้ยนทำให้ใบหน้าไม่เรียบเนียน เกิดรูขุมขนกว้าง โดยเฉพาะจมูก แก้ม คาง น้อยรายที่อาจพบในบริเวณหน้าผาก หลัง และต้นแขน ที่สำคัญสิวเสี้ยนนี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้คุณผู้หญิงทาแป้งไม่ติด คนอายุตั้งแต่ 17 – 60 ปี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ล้วนมีสิทธิเป็นสิวเสี้ยนได้ทั้งนั้น ดังนั้น วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปค้นหาคำตอบค่ะ ว่าสาเหตุที่ทำให้เราเป็นสิวเสี้ยน แท้จริงแล้วเกิดจากอะไร? พร้อมทั้งวิธีการรักษาสิวเสี้ยนหรือสิวหัวดำที่ได้ผลมาฝากด้วยค่ะ
สิวเสี้ยน คือจุดดำ ๆ หรือเส้นดำ ๆ ตรงปากรูขุมขน บริเวณที่เห็นได้ชัดได้แก่ บริเวณจมูก แก้มทั้งสองข้างด้านที่อยู่ใกล้จมูก คางและหลัง สิวเสี้ยนสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
1. ชนิดหัวขาว สิวเสี้ยนประเภทนี้เป็นไขสีขาว เกิดขึ้นจากการที่น้ำมันตามธรรมชาติของผิว ที่เรียกว่า ซิบัม สะสมและแข็งตัวภายในรุมขนรวมตัวกับเศษเซลล์ผิวที่ข้างอุดตันในรูขุมขน ถ้ามีสิ่งสกปรกที่รูเปิดต่อมไขมันมาก ส่วนหัวอาจเป็นจุดสีดำ
2. ชนิดหัวดำ เกิดจากการมีขนอุยเส้นเล็กๆ หากนำหัวสิวชนิดนี้ไปส่องด้วยแว่นขยายจะเห็นขนอ่อนจำนวนมากตั้งแต่ 5-50 เส้นรวมกันอยู่ในรูขุมขนเดียว สิวเ สี้ยนประเภทนี้ทำให้รูขุมขนกว้าง และใบหน้าเป็นจุดดำๆ ไม่เนียนเรียบ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยน?
1. สภาพผิวหน้า หรือฮอร์โมนเพศในร่างกายที่ไปกระตุ้นต่อมไขมันให้มีการผลิตไขมันเพิ่มขึ้น หากเป็นคนผิวมันก็จะเป็นสิวเสี้ยนประเภทแรก หากเป็นผิวธรรมดาแต่มีขนมากก็จะเป็นสิวเสี้ยนประเภทที่สอง
2. การรบกวนผิวมากๆ เช่น การเช็ดถูหน้าแรงๆ, การขัดหรือนวดหน้า ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะรบกวนรูขุมขน หรือต่อมไขมัน ทำให้รูขุมขน หรือรากขนนั้นแตกออก จึงทำให้มีขนคุดอยู่ภายในได้
วิธีการรักษาสิวเสี้ยนหรือสิวหัวดำ (Blackheads)
1. หยุดเอามือสัมผัสหน้า หรือเท้าคางเวลาคิด เพราะมือของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งจะทำให้สิวเห่อได้
2. ล้างหน้าให้สะอาด
ทำความสะอาดผิวหน้าของคุณวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในคนที่เป็นสิวเสี้ยนชนิดหัวขาวเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะทำให้ใบหน้าของคุณสะอาดและปราศจากไขมันส่วนเกิน นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการกำจัดสิว เลือกครีมล้างหน้าที่มีกรดซาลิไซลิเปอร์ออกไซด์ หรือ benzoyl โดยส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น และป้องกันต่อมผลิตน้ำมันบนใบหน้ามากเกินไป
ข้อแนะนำ : อย่าล้างหน้ามากกว่าวันละ 2ครั้ง เพราะจะทำให้ใบหน้าแห้งและต่อมผลิตน้ำมันมากขึ้น
ใช้โฟมล้างหน้าแบบอ่อนที่ไม่ระคายเคือง และประกอบด้วยมอยเจอไรเซอร์แบบปราศจากน้ำมัน (Oil – free moisturizers)
3. การอบไอน้ำให้ผิว
เป็นการทำความสะอาดผิวหน้าและลดสิ่งตกค้างบนผิวได้ดี เหมาะกับคนผิวมัน ทำสัปดาห์ละครั้ง คือ นาบผ้าขนหนูอุ่น ๆ ลงบนใบหน้า หรืออังใบหน้ากับไอจากน้ำร้อน ซึ่งเป็นการเปิดรูขุมขนเพื่อง่ายต่อการกำจัดสิวเสี้ยน ทำเช่นนี้เป็นเวลา 5- 10 นาที จากนั้น ล้างด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ล้างหน้า
4. ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนตรงจุดที่เป็นสิวเสี้ยน ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วจึงค่อยๆ ดึงออกอย่างช้าๆ สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมาพร้อมแผ่นลอกสิว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ราคาไม่แพงนัก แต่การใช้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะสารเคมีที่ใช้ อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ค่ะ ดังนั้นเพื่อนๆ อาจจะลองใช้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติก็ได้นะค่ะ ให้ผลดีเหมือนกับใช้แผ่นลอกสิว ไม่มีสารตกค้าง และประหยัดกว่าด้วยค่ะ เช่น
5. การมาสก์ผิวด้วยไข่ขาว
เป็นวิธีที่เก๋า แต่ก็ช่วยให้สิวเสี้ยนลอกตัวออกมาได้มาก โดยทาไข่ขาวบาง ๆ ที่จมูกหรือข้างแก้ม แล้วนำกระดาษซับหน้าแค่ชั้นเดียว หรือกระดาษทิชชูคลี่ให้บาง แปะทับลงไป ปล่อยให้แห้ง แล้วจึงดึงออก จะมีสิวเสี้ยนหลุดติดออกมาด้วย
6.ไปพบแพทย์ผิวหนัง
โดยปกติแล้ว เมื่อคุณทำตามคำแนะนำทั้งหมดจะช่วยให้คุณกำจัดสิวได้ แต่ถ้าหากคุณพบว่า ตัวเองยังคงทุกข์ทรมานจากการเป็นสิว ทางออกที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาแพทย์และขอคำแนะนำ การรักษาอื่น ๆ อาจมีความจำเป็นเพื่อรักษาสิวบนใบหน้าของคุณด้วย เช่น การกินยาในการดูแลของแพทย์ วิธีทางเคมี เป็นต้น
คนผิวมัน มีโอกาสเกิดสิวเสี้ยนได้ง่าย เนื่องจากต่อมไขมันมีขนาดโต และมีปริมาณน้ำมัน ออกมาฉาบผิวค่อนข้างมาก จึงเกิดการอุดตันปิดปากรูขุมขนได้ง่าย การลดความมันของใบหน้า จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนได้ค่ะ
วิธีลดความมันของผิวหน้าและลดการอุดตันของรูขุมขน
1. เลือกใช้เครื่องสำอางที่ช่วยดูดซับความมันของผิว และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อเบา ชนิดโลชั่นจะเหมาะกว่าชนิดครีม และใช้ในปริมาณเพียงน้อย จะช่วยลดการอุดตันบริเวณรูขุมขน
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ซึ่งช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตกค้างออก และลดการเกิดสิวเสี้ยนได้
3. การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ จำพวกเรตินอล ซึ่งนอกจากจะช่วยต่อต้านริ้วรอยแล้ว ยังช่วยเร่งผลัดการเปลี่ยนเซลล์ผิวด้วย แต่ข้อเสียก็คือ อาจเกิดการแพ้ได้ง่าย จึงอาจเลือกใช้วันเว้นวัน และควรทาตอนผิวแห้งสนิท เนื่องจากปฎิกิริยาระหว่างกรดวิตามินเอกับน้ำ อาจทำให้ผิวลอกตัวมากขึ้น
4. การซับหน้าระหว่างวัน โดยการใช้กระดาษซับหน้า กดซับความมันที่ผิวออก ก็เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความมันของผิวได้เช่นกัน วิธีที่ถูกต้องคือ วางกระดาษซับมันตรงบริเวณที่หน้ามัน และกดลงเบาๆ ห้ามถู เพียงแค่ปล่อยให้มันดูดซับน้ำมันที่ผิวออกไปเท่านั้น