เสริมจมูก-แก้จมูก

เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ด้วยเทคนิคการออกแบบซิลิโคนตามแบบพิมพ์จมูกของคนไข้แต่ละคน ตามหลักความงาม Golden Ratio จากตะวันตก ผสมผสานกับศาสตร์โหงวเฮ้งจากตะวันออก เพื่อให้ได้ซิลิโคนที่เข้ารูปพอดีกับรูปทรงของจมูกแต่ละคน ผลลัพท์ที่ได้จะแม่นยำทำให้ซิลิโคนไม่ยาวเกินไปจนทำให้เกิดการโก่งงอหรือทะลุ หรือซิลิโคนไม่สั้นเกินไปจนทำให้จมูกสั้นหรือปลายจมูกแหงน

การฉีดยายาเฉพาะที่อย่างนุ่มนวลและถูกตำแหน่ง จะทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด คล้ายๆกับการถอนฟันซึ่งไม่มีอะไรต้องกังวล
โดยทั่วไปการผ่าตัดเสริมจมูกจะใช้เวลา 1-1.30 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมหรือเขียวช้ำได้ แต่จะบรรเทาลงใน 3-5 วัน และแพทย์จะนัดคนไข้มาตัดไหมในอีก 10 วันต่อมา

1. สันจมูก มีโครงสร้างหลักคือกระดูกจมูกที่ต่อลงมาจากกลางหน้าผาก (Nasal Bone)  ซึ่งแต่ละคนก็มีความสูงของกระดูกจมูกต่างกันไปใน คนที่กระดูกสันจมูกมีน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนเอเชียสามารถเสริมความหนาได้โดยแท่งซิลิโคน  ซึ่งการเหลาซิลิโคนจำเป็นต้องพอดีกับกระดูกด้านล่าง และต้องไม่สามารถขยับได้  ต้องวางอยู่ในแนวสันจมูกเดิม มีความหนาพอเหมาะไม่สูงหรือต่ำเกินไป คือจากหน้าผากลงมาในระดับของหนังตาบน ซิลิโคนที่เหลาเป็นธรรมชาติจะต้องพุ่งออกจากฐานกระดูกในระดับต่ำกว่าชั้นตาบน โดยต้องเหลือร่องส่วนเว้าให้แยกกันได้ระหว่างด้านบนจมูก (Radix) และ กระดูกหน้าผาก (Glabella) นอกจากนี้ซิลิโคนยังต้องเหลาให้มีความกว้างอย่างพอเหมาะกับความหนาของผิวหนังที่สันจมูกและเหมาะสมกับความกว้างของใบหน้า

2. สันจมูกส่วนกลาง  เป็นรอยต่อของกระดูกจมูกด้านบน และกระดูกอ่อนจมูก (Upper Lateral cartilage) ด้านล่างในบางคนมีปัญหาจมูกส่วนกลางมีปุ่มกระดูกแข็งนูนด้านหน้า ที่คลำได้ชัดเจน  หรือที่เรียกว่าHump สามารถแก้ไขโดยการตะไบหรือตัด Hump ออกไปให้กระดูกเรียบก่อนการเสริมซิลิโคน ซึ่งช่วยให้สันจมูกโค้งเว้าได้รูปและลดปัญหาซิลิโคนขยับได้หรือไม่ติดกับฐานกระดูกด้านล่าง

Wide nose

กรณีจมูกกว้างและสูง เหมือนจมูกคนตะวันตก การตัดกระดูกเพื่อลดขนาดจมูกจะช่วยทำให้จมูกดูเรียวเล็กมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนกว่าการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

Male nose

สันจมูกผู้ชายแตกต่างกับผู้หญิง คือ ระดับของสันจมูกที่ออกจากหน้าผาก (Nasion) จะสูงกว่าผู้หญิง  และสันจมูกจะตรงออกมามากกว่าผู้หญิงซึ่งสันควรจะโค้งเว้าลงไปเล็กน้อยประมาณ 1-2 มิลลิเมตร