Open : 10:00-20:00 ทุกวัน
95, 97 ถ.มหาดไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ศัลยกรรมพลิกชีวิต

17
Jun

ศัลยกรรมพลิกชีวิต ?

ทุกๆ วัน ผมพยายามสะกดจิตตัวเองกับหน้ากระจกวันละหลาย 10 รอบว่า อยากหล่อหุ่นดีเหมือนนิชคุณ ยอมทุบกระปุก (หมู) เหมาแบรนด์ซุบไก่สกัด ยกลังทั้งกินทั้งอาบ ก็ไม่สำเร็จสักที อิ อิ ใครบ้างไม่อยากดูดี แม้ว่าความสวยหล่อ ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่หลายๆ คนก็สามารถเปลี่ยนชีวิตแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้ เพราะศัลยกรรม…

ศัลยกรรม ศิลปะความงามเรือนแสน นพ.สมศักดิ์ คุณจักร
เสียงร่ำลือเล่าอ้างว่า ศัลยกรรมเสริมโหงวเฮ้ง ชีวิตที่ดีไม่ใช่แค่ความงามเพียงเดียว
ดารา – ไฮโซ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายๆ คนต่างก็ผ่านมือผู้ชายคนนี้กันมาทั้งนั้น
ถ้าอยากสวยแบบธรรมชาติ ดึงบุคลิกภาพสไตล์ของตัวเองออกมาได้ชัดเจน มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง
แต่แน่นอนว่า คุณภาพอันยิ่งใหญ่ ก็มาพร้อมกับราคาที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยมุมมองความคิดที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวที่หาใครจับยาก คงไม่ใช่ใครอื่นไกล นอกจาก “นพ.สมศักดิ์ คุณจักร” ซึ่งแวดวงคนทำศัลยกรรมคงรู้จักกันดิบดี

“ราคา” เปรียบได้กับคุณค่าทางงานศิลปะ

“คือเป็นงานศิลปะ ใช่ไหม อย่างภาพวาดของอาจารย์เฉลิมชัย ทำไมแกขายได้เป็นล้านๆ ขณะที่ภาพคนอื่นราคาแค่พันสองพัน ถ้าคนเข้าใจในงานศิลปะ แล้วต่อมารู้ว่างานของคนนี้มาตรฐาน หรือว่าเป็นงานที่ลอกเลียนแบบไม่ได้ หายากมาก พอภาพแพร่ออกไปมากๆ เข้า คนก็เริ่มรู้ว่า คนนี้มีฝีมือ เพราะฉะนั้นก็อยากได้ภาพของอาจารย์คนนี้ไว้ ต่อมาวาดอะไรออกมา สวยไม่สวยก็มีราคาหมด กลายเป็นแบรนด์ขึ้นมา
…แรกๆ ก็คือฝีมือก่อน แต่ถ้าเรารักษาฝีมือไว้ด้วย แบรนด์นั้นก็เป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าและคุณภาพ เพราะงานผมๆ ทำอย่างนั้น ก็คือว่าเราทำให้มีคุณภาพ และดูแลมาตรฐานของเรา ทุกๆ คนต้องสวยเมื่อผ่านมือเรา อย่างบางคนที่เขาศึกษามาดีแล้ว ก็จะตามใจหมอ ราคาไม่เกี่ยงเลย กลายเป็นทุกๆ คนรู้แล้วว่า งานของเราเปรียบกับเข้าไปศูนย์รถเบนซ์ คุณรู้แล้วไม่มีหรอก ราคาล้านสองล้าน ต้องสามสี่ล้านไปจนถึงสิบล้านขึ้นไป ถ้าคุณเข้าไปศูนย์รถโตโยต้า ราคาก็ต่ำกว่าล้าน มันเป็นที่รู้ๆ กันแล้วว่า คุณภาพเขาทำมาเจาะตลาดต่ำ อย่างโรงพยาบาลหลายแห่ง เอาปริมาณ ไม่เอาคุณภาพ แน่นอนราคาก็ต้องถูก
…ถ้าจะเอาคุณภาพ ต้องทำงานน้อยๆ แต่งานทุกชิ้นมีคุณภาพหมด ผมถึงขายงานคุณภาพ เพราะได้ทุ่มเทให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งการเปลี่ยนความคิดคนให้ได้ คนที่มาทำเขาขาดความมั่นใจ คือเราต้องการให้ทุกคนได้สิ่งที่ดีอย่างมีความสุข เพราะฉะนั้นในบางครั้งเราประเมินแล้วว่า คนนี้เขาเข้าใจอะไรผิด เราเพียงแต่ไปสะกิดนิดหน่อย ว่าจริงๆ คุณดีอยู่แล้ว ทำแล้วก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คุณไม่ต้องทำก็ได้ เราก็สามารถทำให้คนมีความสุขและมั่นใจขึ้นมาได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำศัลยกรรม”

ข่าวเด็กอายุ 17 ปี ทำศัลยกรรม 16 ครั้ง?

“บางคนมากกว่านี้อีก หลังจากนั้นก็ไม่น้อยหน้า คนไข้ผมคนนึงเกือบ 30 อย่าง ตะเวนทำ ทำจนผมต้องไล่มันไป ก็บอกไม่ไหวแล้วนะ ผมด่าแรงๆ เลย จะบ้าไปแล้วไง อายุแค่ 20 กว่าเองนะ ประเด็นหลักก็คือว่า คนเริ่มแตกตื่นเรื่องศัลยกรรมเยอะขึ้นมาก อย่างผมอยู่ในวัยที่ว่า เมื่อก่อนไม่เป็นที่นิยมเลย ก็ได้เห็นตั้งแต่คนที่เขาต่อต้าน
…จนกระทั่งผ่านมาถึงตอนนี้คนบ้าคลั่ง กำลังเห็นสองฝั่งอย่างนี้ คนก็เริ่มสับสนว่าจะเอายังไงดีวะ สรุปว่า ศัลยกรรมดีหรือไม่ดี สมควรทำกันไหม หรือว่าขอบเขตอยู่ตรงไหน ตอนนี้กระแสกำลังแรงคนแตกตื่นเรื่องศัลยกรรมกันเยอะ แตกต่างจากเมื่อก่อนแม้กระทั่งในโรงพยาบาลก็ยังไม่มี มีแต่คลีนิก อะไรประมาณนี้”
ทุกวิชาชีพ เน้นที่หน้าตา
“เดี๋ยวนี้ หลายๆ วิชาชีพจะเน้นที่หน้าตา โดยคนที่คัดเลือกเข้าทำงานก็จะเน้นแต่หน้าตาดี บุคลิกดีไว้ก่อน ไม่ค่อยเน้นเรื่องความสามารถ อย่างเช่นนักร้องเสียงดี แต่ไม่ดังก็เยอะแยะ แล้วรู้สึกว่ามันน่าสงสารไหม อย่างโดมเสียงอย่างนี้เหรอ ไปเทียบกับชรินทร์ นันทนาครได้ไหม แต่คนกรี๊ดสลบจะบ้าตายให้ได้ แสดงว่า คนขาดทิศทาง ไปตามกระแส กระแสตอนนี้ก็สวยหล่อๆ เปิดหนังสือหรือรายการต่างๆ ก็มีแต่เรื่องสวยหล่อๆ เต็มไปหมด มีอยู่แค่นี้ไง เพราะฉะนั้น คนก็เลยบ้าเรื่องศัลยกรรมความงาม”
ไม่ดีหรือ? ถ้าลูกค้ามากขึ้น
“ผมว่า เหนื่อยมากกว่า คือเหนื่อยกับการที่เราต้องจูนให้เขาอยู่ในร่องรอย ให้เขามีความพอดี คือบางครั้งเนี่ย อยากจะสวยจะหล่อจนกระทั่งลืมนึกว่าเป็นไปไม่ได้ ยิ่งเราได้รับความน่าเชื่อถือเท่าไหร่ เขายิ่งพุ่งมาและยิ่งคาดหวังสูงว่า เราจะต้องทำได้ เขาจะต้องหล่อสวยเหมือนพระเอกนางเอกคนนั้นคนนี้ เอาสเป็คมาให้ดูแล้วต้องทำได้ ซึ่งไม่คิดว่าตัวคนเรามีขอบเขตจำกัดนะ พอคุยแล้วเหนื่อย แล้วเราเองก็เครียดด้วย”
ขอบเขตของศิลปะความงาม
“ถ้าคาดหวังอะไรเกินไปที่เป็นไปไม่ได้ ผมก็จะบอกให้ไปทำที่อื่น เพราะผมถือว่างานผมเป็นงานจิตรกร ต้องใช้ความประณีตค่อนข้างสูง ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องงานศิลปะความงาม คุณเข้าใจแต่ว่า เสียบดั้งแล้วดั้งต้องโด่งปรี๊ด (หัวเราะ) ยิ่งโด่งยิ่งดี ยิ่งโด่งยิ่งสวย มันไม่ใช่ มันต้องกำลังดีกำลังงาม อย่างคนรูปร่างหน้ากลมมาอย่างนี้ คุณจะไปเจาะจมูกให้เหมือนคนนั้นคนนี้ได้ไหม ไม่ได้ ต้องดูให้เหมาะสมกับรูปหน้าตัวเองด้วย
…อย่างตอนนี้กำลังบ้าหน้าเรียว ก็ต้องดูว่า มันเรียวได้ไหม บางคนทำทีเดียวก็เรียวได้เลย แต่ถ้าบางคนเหลี่ยมจัดมาเลย โอ้โห..คุณจะเรียวได้ เจ็บหนักสาหัสเลยนะ ต้องทำเยอะแยะ ตัดโน่นตัดเนี่ยสารพัด อย่างพวกกระเทยอยากเป็นผู้หญิง คิดว่าทำอย่างเดียวจบไหม โอ้โห…ทั้งตัวน่ะ เจ็บเยอะ ลงทุนเยอะ แต่นั่นเราเห็นใจเขา เพราะว่าเป็น Inborn มันฝังหัวมาแล้ว ถ้าไม่ได้ทำ เขาจะทุกข์ตายเลยน่ะ”
ลูกอยากเป็นซุปตาร์เกาหลี
       “อย่างหลายวันก่อนมีแม่ลูกคู่นึงมา แม่นั่งเครียดเลยนะ เรารู้แล้วว่า ขัดแย้งกัน แม่ก็อิดออดๆ ลูกก็หน้าเศร้าเพราะอยากทำ ก็เรียนร้องเพลง เรียนเต้นมาบ้างนิดหน่อย แต่เขาจะมาทำศัลยกรรมเพื่อที่ว่าจะเหมือนเกาหลี จะโกอินเตอร์ เพ้อฝันไปโน่นเลย ก็บอกคุณหมอทำอะไรก็ได้ให้หนูดัง (หัวเราะ) โอ้โห…ฟังแล้วมันเหนื่อยหัวใจนะ อย่างนี้คุยกันยาวเลย เรารู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ วิธีของผมเมื่อเป็นไปไม่ได้ เราก็ต้องพยายามให้เปลี่ยนความคิดเขา
…แต่ยาก เพราะมันฝังหัวเขาตั้งแต่อายุน้อยๆ แล้ว เป็นเวลา 10 กว่าปี เขามุ่งหวังจะเป็นอย่างนั้น แต่เขาไม่ได้มองว่าความพร้อมของครอบครัวมีไหม แล้วสรีระเขาพอจะเป็นไปได้ไหม ห่างไกลจากความเป็นจริงแค่ไหน เยอะมาก เราก็ได้แต่ส่ายหัวไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ก็ค่อยๆ เริ่มจากไม้นวมไปไม้แข็ง ก็บอกเป็นไปไม่ได้ ควรจะคิดไปทางอื่นซะ คนที่พูดอย่างเราก็อาจไม่เยอะ เพราะเขาไปที่อื่นก็ถูกจับทำโน่นทำนี่เยอะไปหมด เอาตังว่าง่ายๆ ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย
…ก็บอก อ้าว…ตาคุณก็ดูดีอยู่แล้ว แบบนี้ทำตาเกาหลีได้ไหม ก็ยัง ทำจมูกอีกนิดนึง ก็ยังไม่เป็นเกาหลี แต่โอเค ดีกว่าเดิมนิดหน่อย ปากหนาทำให้บางลงนิดนึง แต่ก็ไม่ใช่เป็นนุ่น – วรนุช ไม่ใช่เป็นอั้ม – พัชราภา ไม่ใช่เป็นดาราเกาหลีแน่ๆ เพราะว่ามันห่างไกลเหลือเกิน แล้วคุณจะหมดเงินหมดทองสักเท่าไหร่ ที่จะทำให้ฉลาดขึ้นสักที ว่าเจ็บตัวขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ได้อะไรเลย และก็ไปไม่ถึงสิ่งที่ตัวเองฝันเอาไว้ เราก็ต้องฟันธงเลยว่า คุณควรไปทำอาชีพอื่นๆ มากกว่า”
ศัลยกรรมกับโหวงเฮ้ง เริ่มจากทดลองวิจัย
“โหวงเฮ้งเมื่อก่อนผมไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะทางการแพทย์เราไม่เชื่อ คือจริงๆ ก็ไม่ขัดนะ ทางการแพทย์ก็สอนอย่างหนึ่ง แต่โหวงเฮ้งก็สอนอีกแบบนึง มันก็เป็นศาสตร์เป็นความรู้ของมัน ที่ว่าขัดก็เพราะต่างคนต่างไม่ได้ศึกษาซึ่งกันและกันมากกว่า โหวงเฮ้งก็ไปเรื่องของเขา ส่วนแพทย์ก็มีทางของเขาเอง แต่ทุกคนถ้าเปิดใจและยอมรับทุกศาสตร์เอามาผสมผสานกันแล้ว มันจะเกิดความกลมกลืน
…ซึ่งเมื่อก่อนเราไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ไง ขยับจมูกนิดนึงแล้วจะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไป ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ทีนี้มาพูดกันหลายคนแล้วว่า ชีวิตดีขึ้น ถ้าหากเราไม่ได้เอาในสิ่งที่ได้ยินกับหูเนี่ย มาทดลองวิจัยหรือติดตาม เท่ากับเราก็ปิดกั้นไปเลยซิวะ เพราะฉะนั้นก็ลองฟังซิ แล้วลองคิดตาม มันดีขึ้นจริงหรือ ก็เลยเริ่มจากถามหมดทุกคนเลย ว่าทำศัลยกรรมแล้วดีขึ้นจริงไหม ปรากฏว่าเป็นจริงอย่างนั้น หลังทำบางคนทันที บางคนใช้เวลาเป็นอาทิตย์ บางคนใช้เวลาเป็นเดือน แต่ชีวิตทุกคนเปลี่ยนหมด”
เสียงร่ำลือ…ศัลยกรรมทำแล้วพลิกชีวิต
…ถ้าเกิดว่าทำผิดแบบ ก็จะเปลี่ยนไปในแง่ลบ ถึงขนาดบริษัทล้มละลาย ครอบครัวแตกแยก ชีวิตไม่ดีเลยว่าง่ายๆ พอแก้ให้แล้วมันดีขึ้น คือศึกษาในแง่ของผมเองว่า ฮวงจุ้ยมีผล ซึ่งก็มีตำราของเขาอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เลยเริ่มอ่าน ว่าเฮ้ย…มันต้องดูกันหน่อยแล้วมั้ง ฮวงจุ้ยเป็นยังไงบ้าง มีอะไรบ้างที่มีผลต่อชีวิตมนุษย์ คิ้ว ตา จมูก ปาก คาง เพื่อเราไม่ต้องการผิดพลาด ถ้าเราทำไปแล้ว มันผิดสเป็คและไม่ถูกต้องตามหลักโหวงเฮ้งเขา แล้วชีวิตเขาแย่ลง โอ๊ย..เราก็ตายซิวะ ถ้าเราไม่คิดถึงเรื่องนี้ เรามัวแต่นั่งปฏิเสธว่าไม่เกี่ยว แค่ทำตรงนี้นิดเดียว จะไปเกี่ยวอะไรกับชีวิตคุณล่ะ
…แต่ถ้าศึกษารู้แล้วเนี่ย มันก็เป็นของจริง เรารู้ได้เลยว่ามาแบบนี้มันผิด อย่างนี้ชีวิตคุณต้องไม่ดีแน่ๆ ถ้าแก้แล้วเดี๋ยวดีแน่ๆ ทำให้คนก็ไปร่ำลือ เพราะคนไปบอกต่อว่าทำแล้วชีวิตเขาดีขึ้นหมดเลย ทั้งบริษัทดีขึ้น ยอดขายดีขึ้น ออเดอร์ทะลัก ขยายบริษัทแตกหน่อแตกอะไรได้ อย่างนี้พวกศิลปินดารา พวกพริตตี้ทั้งหลายงานก็เข้ามาเพียบ ก็ไปพูดปากต่อปาก แต่จริงๆ แค่ว่า เราเป็นหมอแผนปัจจุบัน แต่ว่าเปิดใจรับฟังเรื่องนี้ แล้วก็อ่านบ้างนิดหน่อย เพื่อทำให้ไม่ให้ผิดสเป็คเขา ให้มันถูกต้องตามหลักแล้วชีวิตเขาดีขึ้น ผมก็มีความรู้แค่นี้แหล่ะ ไม่ได้รู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับโหวงเฮ้งมากมาย แต่พูดเท่าไหร่คนก็ไม่ฟังกัน (หัวเราะ) ก็เลยเป็นที่มาที่ไปของศัลยกรรมกับโหวงเฮ้ง”

ตัวอย่าง : ศัลยกรรมช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
“ถ้ามีเวลาผมก็พยายามตามแทบทุกๆ คน ว่าทำแล้วชีวิตเขาดีขึ้นไหม อย่างผู้หญิงคนหนึ่งครอบครัวกำลังแตกแยกก็อยู่ที่ขอนแก่น ทำธุรกิจชนิดนึงอยู่ ซึ่งตัวเองเข้าไม่ได้กับสามีและแม่สามีเลย คือมีลูกมีเต้าด้วยกันแล้วล่ะ แต่ปัญหาสั่งสมมานานแล้วจนต้องแยกกัน เขาก็เลยเข้ากรุงเทพมาทำศัลยกรรมเพื่อว่าจะไปใช้ชีวิตใหม่แล้วล่ะ ทนอยู่ไม่ได้กับครอบครัว พอเราทำให้เสร็จไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์ที่เขาแทบไม่เชื่อ แม่ผัวซึ่งไม่เคยดีกันเลย โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบและส่งเงินมาให้ใช้ด้วย
…แล้วก็บอกลื้อควรจะทำอย่างนี้ๆ ทำรีแพร์เพิ่ม เหตุการณ์ปรับเปลี่ยนเลย แถมส่งเงินมาให้ทำศัลยกรรมอีก พอทำเสร็จภายในเวลาไม่กี่เดือน ก็กลับไปอยู่กับครอบครัวเรียกว่า ทุกอย่างดีแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ แล้วผมก็ลองคิด ถ้าเป็นเด็กนักเรียนล่ะ ชีวิตจะเปลี่ยนไหม ก็เลยลองถาม เด็กคนหนึ่งว่าหนูทำไปแล้ว ชีวิตเป็นยังไงบ้าง ตอนนั้นก็คิดในใจว่า เด็กนักเรียนกำลังเข้ามหาวิทยาลัยชีวิตจะเปลี่ยนได้ไง เด็กจะไปรู้จักอะไร วันๆ ก็สนุกสนานไป
…เขาก็นั่งคิดแป๊ปนึง ก็บอกว่า เปลี่ยนนะ เมื่อก่อนแม่ชอบดุประจำเลย นอนตื่นสายก็ไม่ได้ ปรากฏว่าหลังจากนั้น แม่ไม่เคยว่าเลย แล้วก่อนหน้านี้ ขอซื้อกล้องแคนนอนราคาเกือบแสน อยู่มันวันหนึ่ง แม่ซื้อมาให้เองเลย แล้วตัวเองอยากจะเรียนนิเทศฯ แม่ก็ไม่ยอมให้เรียน พอหลังจากทำเสร็จก็บอกว่าว่า ตามใจลูกนะ เรียนนิเทศฯ ก็ได้ น่าแปลกประหลาดใจเหมือนกัน ชีวิตกลายเป็นดีไปหมด ซึ่งถ้าอย่างเดียว เราก็คงไม่เชื่อ แต่เนี่ยหลายๆ อย่างเลย”

“ถ้าจะเอาคุณภาพ ต้องทำงานน้อยๆ แต่งานทุกชิ้นมีคุณภาพหมด ผมถึงขายงานคุณภาพ เพราะได้ทุ่มเทให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งการเปลี่ยนความคิดคนให้ได้”

นพ.สมศักดิ์ คุณจักร ศัลยกรรมเสริมโหงวเฮ้งชื่อดังของประเทศไทย
เรื่อง : ธีร์ คำตัน ภาพ : กิติพงษ์

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จาก http://bit.ly/2szSpPu