สักแล้ว รับราชการได้ไหม?
ตอนนี้จะสอบราชการแล้ว แต่มีรอยสักที่หลัง เลยอยากรู้ว่า “สักแล้ว รับราชการได้ไหม?”
และอีกหลายคำถามเกี่ยวกับรอยสัก ก่อนอื่นต้องท้าวความไปก่อน สมัยโบราณพวกสามัญชน(ไพร่)จะต้องมีการสักร่างกายตามกรมกองที่สังกัด ซึ่งเป็นการแสดงว่ามีเจ้านายที่ตนต้องรับใช้ แต่ข้อกำหนดนี้ยกเว้นว่าพวกเจ้าพวกลูกขุนนาง ผู้ดีมีตระกูลทั้งหลาย ไม่ต้องสักเพื่อแสดงสังกัดนี้ ดังนั้น การสักจึงเป็นสัญลักษณ์ของคนชั้นต่ำ ไพร่ หรือ ทาส ไม่ใช่สำหรับผู้ดีหรือเจ้านาย โรงเรียนนักเรียนนายร้อย ทหาร ตำรวจ จึงไม่รับพวกมีรอยสัก และคนที่รับราชการคือคนที่จะมาเป็นนายของราษฎรจึงควรเป็นคนที่ไม่มีรอยสัก คือต้องเป็นผู้ดีเท่านั้นที่สมควรเป็นเจ้าคนนายคน
นอกจากนั้น ในสมัยก่อนคนที่เคยเข้าคุกเข้าตะรางจะสักร่างกายกัน พอออกมาทีนึงก็ได้รอยสักมาทีนึง ยิ่งบางคนที่เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น ก็เลยมีลายสักเต็มตัว ค่านิยมการสัก จึงถูกมองว่าเป็นคนคุกมาก่อน จึงไม่เหมาะมาทำงานราชการ แต่สมัยนี้วัยรุ่นสักลายเพื่อความสวยงามตามร่างกาย ต่างจากเมื่อก่อน ที่สักยันต์ลงอาคมจากผู้มีวิชาหรือสักลายเมื่อเคยเข้าคุก และสำหรับอาชีพราชการที่ไม่รับผู้ที่มีรอยสัก ได้แก่ ข้าราชการทหาร-ตำรวจ, อัยการ, ผู้พิพากษาและแพทย์
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณคิดจะสักควรจะไตร่ตรองให้ดีนะครับ หรือถ้าไม่แน่ใจว่าจะชอบการมีรอยสักหรือไม่ ก็ควรลองใช้สติ๊กเกอร์รอยสักติดดูก่อน ถ้าไม่ชอบก็ยังแกะออกได้ง่ายๆ หรือถ้าชอบจริงๆก็ให้สักไว้ในร่มผ้า เพราะยังปกปิดได้ แต่ถ้าได้สักไปแล้ว ต่อมาถ้าอยากลบออก ก็จะเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก แม้ว่าจะใช้เลเซอร์ลบก็ตาม เพราะไม่สามารถลบออกได้อย่างหมดจดและต้องลบหลายครั้ง อย่างน้อยๆ 5-6 ครั้ง อาจจะมากกว่านั้นอีก ซึ่งจะใช้เวลาในการลบหลายเดือน หรือเป็นปี ดังนั้นในการลบแต่ละครั้ง เจ็บพอสมควร อาจจะต้องทายาชาด้วย ที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายในการลบ มากกว่าค่าสัก ฉะนั้นก่อนที่จะสักสิ่งใดลงบนร่างกาย โปรดคิดทบทวนให้รอบคอบ ผลเสียที่จะตามมาอาจจะมากกว่าที่คิดก็ได้ครับ