รูขุมขนกว้าง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป
อะไรคือ “รูขุมขนกว้าง”
บนผิวหน้าของเรานั้นประกอบรูขุมขนขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก รูขุมขนเหล่านี้เป็นทางออกของน้ำมันที่ไหลออกมาจากต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิว ช่วยหล่อเลี้ยงและเคลือบผิวให้ชุ่มชื่นตามธรรมชาติ และหากรูขุมขนมีขนาดเล็กเกินไปจะทำให้การไหลของน้ำมันเคลือบผิวไม่สะดวก เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวได้ ขณะเดียวกันหากรูขุมขนกว้างเกินไป ก็จะทำให้ผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน
ปัญหารูขุมขนกว้างเกิดจากน้ำมันที่ต่อมไขมันขับออกมานั้นมีปริมาณมากเกินไป รูขุมขนจึงต้องขยายตัวออกเพื่อขับน้ำมันเคลือบผิวเหล่านี้ออกมา รูขุมขนที่เดิมควรจะมีขนาดเล็กและมองเห็นได้ยาก ก็จะขยายใหญ่ขึ้นจนเห็นได้เด่นชัด ส่งผลให้ผิวหน้าหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ
บริเวณที่มักมีปัญหาของรูขุมขนกว้างนั้นมักเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่มาก เช่น บริเวณ T-zone คือ บริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว จมูก แก้ม (ส่วนที่อยู่ใกล้กับจมูก) คาง และมักเกิดกับผู้ที่มีผิวมันเป็นส่วนใหญ่ เพราะคนที่มีผิวมันนั้นจะมีต่อมไขมันที่ใหญ่ การไหลของน้ำมันเคลือบผิวจึงมากกว่า รูขุมขนจึงกว้างกว่า
สาเหตุของปัญหารูขุมขนกว้าง
- ลักษณะของผิวที่ทำให้รูขุมขนของแต่ละคนมีความใหญ่เล็กแตกต่างกัน อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่าคนที่มีผิวมันนั้นจะมีปัญหารูขุมขนกว้างมากกว่าคนที่มีผิวปกติ รวมถึงพันธุกรรมของแต่ละคนก็มีส่วนด้วย เช่น ถ้าเรามีพ่อแม่ที่รูขุมขนกว้าง ตัวเราเองก็มักจะมีรูขุมขนกว้างตามไปด้วยเช่นกัน
- ฮอร์โมนเพศของแต่ละคนที่ส่งผลต่อการไหลของน้ำมันเคลือบผิว ยิ่งถ้ามีฮอร์โมนเพศอยู่มาก (โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย) ก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมันเร่งสร้างน้ำมันออกมาเคลือบผิว และถ้ามีน้ำมันเคลือบผิวไหลออกมามากเกินไปจะเป็นการเร่งให้รูขุมขนต้องขยายตัวกว้างขึ้นตามไปด้วย
- การสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานานโดยขาดการป้องกันอย่างถูกต้อง จะทำให้ Collagen และ Elastin ที่อยู่ใต้ผิวซึ่งช่วยให้ผิวหยืดหยุ่นเต่งตึงนั้นถูกทำลาย ผิวหน้าจะหนาและหยาบกร้านขึ้น รูขุมขนที่อยู่บนผิวหน้าก็จะขยายกว้างขึ้นด้วย
- การดูแลผิวหน้าที่ไม่เหมาะสมก็มีผลกระทบทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างได้ เช่น การไม่ล้างหน้าเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง การบีบ แคะ แกะสิว หรือการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยครั้ง หรือแม้แต่การปล่อยเครื่องสำอางให้อยู่บนใบหน้าโดยไม่ล้างออกก็มีผลทำให้รูขุมขนกว้างได้เช่นกัน
แก้ปัญหารูขุมขนกว้างด้วยหลากหลายวิธี
ปัจจุบันนี้มีวิธีการมากมายที่นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ซึ่งมีทั้งสามารถทำได้ด้วยตัวเองในกรณีที่รูขุมขนไม่กว้างเกินไป ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อแก้ไขรูขุมขนที่กว้างมาก ยกตัวอย่างที่น่าสนใจได้ดังนี้
- เปลี่ยนพฤติกรรมแล้วหันมาดูแลตัวเอง ปัญหารูขุมขนกว้างที่มีขนาดไม่กว้างมากเกินไปก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เช่น รักษาความสะอาดของผิวหน้าอยู่เสมอ ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับผิววันละ 2 ครั้ง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้า รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง และเมื่อต้องออกไปสัมผัสกับแสงแดดก็ควรทาครีมกันแดดไว้ด้วยก็จะดีมาก
- ลดความมันบนใบหน้าลงบ้าง ความมันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รูขุมขนบนใบหน้ากว้างขึ้น เราจึงควรดูแลให้ผิวหน้าแห้ง (แต่ไม่ใช่แห้งจนเกินไป) อาจใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสบบัติควบคุมความมัน (Oil Control) ก็พอช่วยได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขนผลิตออกมาในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งโทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว หรือเซรั่ม ผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนบางชนิดยังมีส่วนผสมของกรดผลไม้อ่อนๆ จำพวก AHA หรือ PHA เพื่อช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกไป ป้องกันการอุดตันของรูขุมขนอันป็นสาเหตุของรูขุมขนกว้าง ทั้งนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถซึบซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายและเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง โดยควรใช้ภายหลังจากล้างหน้าเพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนเปิด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้ดี
- ขัดผิวขจัดรูขุมขนกว้าง การขัดผิวหรือสครับผิวช่วยให้รูขุมขนที่กว้างนั้นเล็กลงได้ เพราะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนและเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก ลดโอกาสที่จะเกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ ซึ่งควรขัดผิว 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ (ถ้ามากกว่านี้ผิวจะบอบช้ำและอ่อนแอเกินไป เสี่ยงกับการเกิดสิวและผิวหยาบกร้าน) การขัดผิวหน้านั้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวและควรขัดอย่างนุ่มนวล ไม่ควรขัดรุนแรงเกินไป
- กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Micro Dermabration) เป็นการกรอผิวหน้าที่คล้ายกับการขัดผิว โดยใช้เกล็ดอัญมณีที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างดีแล้ว นำมากรอผิวหน้าอย่างนุ่มนวลเพื่อขจัดสิ่งสกปรก กระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ซึ่งเมื่อกรอผิวอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยทุกๆ 1-2 สัปดาห์ จะช่วยให้ รูขุมขนที่กว้างกระชับขึ้น และยังช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยบางๆ ดูจางลงด้วย
- ฉีดโบท็อกซ์ สารคลายกล้ามเนื้อ Botulinum Toxin หรือเราเรียกกันติดปากว่าโบท็อกซ์ (Botox) นอกจากจะนำมาใช้ฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape แล้ว โบท็อกซ์ยังมีคุณสมบัติลดการทำงานของเซลล์สื่อประสาทใต้ผิว ลดการหลั่งของเหงื่อ ส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง ผลการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ก่อนที่จะมาฉีดใหม่
- การทำ RF (Radio Frequency) เป็นการใช้พลังงานความถี่สูงในระดับ Megahertz ซึ่งเป็นระดับเดียวกับคลื่นวิทยุแต่ไม่เป็นอันตราย ส่งผ่านเข้าไปในผิวหน้าจนถึงชั้น Dermis และกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผิวหน้ายกกระชับ กระตุ้นการสร้าง Collagen ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น และส่งผลให้รูขุมขนกระชับยิ่งขึ้น
- เลเซอร์กระชับรูขุมขน เป็นการใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูงยิงไปที่ผิวเพื่อส่งผ่านเข้าไปยังผิวหน้าเพื่อสร้าง Collagen ให้ผิวกลับมาเต่งตึง รูขุมขนที่กว้างจะกระชับมากขึ้น ลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำบนใบหน้า ซึ่งปัจจุบันเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขนนั้นมีด้วยกันหลากหลาย เช่น VIPL LASER เป็นคลื่นแสงที่ได้รับการพัฒนาเพื่องานด้านความงามโดยเฉพาะ เหมาะกับผิวของคนเอเชียที่ออกโทนเหลือง นอกจากจะช่วยแก้ไขเม็ดสีผิวที่หมองคล้ำให้กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำแล้ว ยังส่งผลให้ผิวเต่งตึงกระชับ รูขุมขนกระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ
และในตอนนี้มีนวัตกรรมเพื่อตอบสนองคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวหยาบกร้านไม่เรียบเนียน นั่นคือ Carbon Peel LASER ด้วยการนำเอาข้อดีของ “ผงคาร์บอน” ที่มีอนุภาคเล็กเพียงแค่ 40 Micron จึงสามารถแทรกซึมเข้าไปยังรูขุมขนบนผิวหน้าของเราที่กว้างได้ และ “แสงเลเซอร์” ที่มีความยาวของคลื่นถึง 1,064 NM
เมื่อยิงเลเซอร์ไปที่ผิวหน้าที่ทาผงคาร์บอนไว้ คลื่นแสงจะทำปฏิกิริยากับผงคาร์บอนจนเกิดการเผาไหม้ (แต่ไม่เป็นอันตรายกับผิว) ส่งผลให้ภายในรูขุมขนเกิดการฟื้นฟู ซ่อมแซม และสร้าง Collagen ขึ้น รูขุมขนที่กว้างจะค่อยๆ กระชับขึ้นจนรู้สึกได้ ผิวหน้าที่หนาและหยาบกร้านจะกลับมาเรียบเนียนน่าสัมผัสอีกครั้ง เมื่อได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง
ปัญหารูขุมขนกว้างไม่ใช่เรื่องที่แย่และต้องกังวลใจอีกต่อไป เพราะถ้าเราเรียนรู้วิธีการดูแลตัวเอง รวมถึงการแก้ไขอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปที่เราจะได้ผิวที่เรียบเนียนน่าสัมผัสกลับมา