รักษาแผลเป็นนูน
รักษาแผลเป็นนูน
รักษาแผลเป็นนูน และคีลอยด์ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลาย ๆ คนพบเจอ อยากจะสวมใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ก็ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่
รักษาแผลเป็นนูน และคีลอยด์ เป็นอย่างไร ?
ลักษณะเป็นปื้นนูนแข็ง ตามแนวรอยแผล (กรณีของแผลเป็นนูน) หรือล้ำออกมานอกรอยแผล (กรณีของคีลอยด์) เกิดตามหลังการบาดเจ็บหรือการอักเสบรุนแรงของผิวหนัง เนื่องจากมีการซ่อมแซมของผิวหนังที่มากผิดปกติ
อาจมีอาการคันและเจ็บร่วม กรณีเป็นคีลอยด์สามารถขยายขนาดขึ้นได้เรื่อย ๆ
พบบ่อยในผู้มีแผลเป็นนูนมาก่อน มีผิวเข้ม การเกิดแผลในตำแหน่งที่มีความตึงของผิวสูง เช่น หน้าอก ไหล่ สะบักหลัง แนวกราม และพบมากขึ้นในแผลติดเชื้อ แผลลึก
การเกิดแผลเป็นนูนอาจเกิดจากหลายสาเหตุและมีลักษณะแตกต่างกันไป นูนที่เกิดขึ้นจากแผลอาจเป็นเพราะ:
1. การบาดเจ็บ: หลายครั้งเมื่อมีการบาดเจ็บหรือกระแทกต่อผิวหนังอย่างแรง อาจทำให้เกิดการทำลายของเนื้อเยื่อด้านในและรอบๆ แผล ทำให้เกิดนูนหรือบวมขึ้น
2. การติดเชื้อ: ถ้าแผลได้รับเชื้อและเกิดการติดเชื้อ มักจะมีการอักเสบและการพบเนื้อเยื่อที่บวมขึ้น ซึ่งอาจเป็นที่มาของนูน
3. การเสียหายของเนื้อเยื่อ: การเสียหายของเนื้อเยื่อในบริเวณแผลอาจทำให้เกิดนูน เนื่องจากมีกระบวนการการฟื้นฟูที่เกิดขึ้น หรือการเจริญเติบโตของเซลล์ที่สามารถทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นขึ้น
แผลเป็นนูน และคีลอยด์ รักษาอย่างไร ?
วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพดี
- การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในแผล เป็นการรักษาหลัก
- เลเซอร์ชนิด Pulse dye laser หรือ V beam laser เป็นการรักษาร่วม โดยเลเซอร์ จะช่วยลดรอยแดงเพิ่มความเรียบเนียน เพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านการรักษาและป้องกันการเกิดแผลเป็น
- การจี้เย็นด้วยไนโตรเจนเหลว (Cryotherapy) เป็นการรักษาร่วมในรอยโรคที่นูนหนาแข็งมาก โดยการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ สามารถทำซ้ำทุก 2 – 4 สัปดาห์จนราบลง
การดูแลแผลอย่างเหมาะสมโดยการทำความสะอาดและการป้องกันการติดเชื้อสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนูนและช่วยให้แผลหายไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น หากนูนหรือบวมมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม
รักษาแผลเป็นนูน คีลอยด์ด้วย A-Tone Laser @หมอปุ๊ Neramit Clinic
https://www.youtube.com/watch?v=KQLikwp9BsM