ผิวแห้ง เกิดจากอะไร
สาเหตุหลักที่ดูแลผิวยังไง ผิวก็ไม่ดีเสียที คือการไม่รู้จักสภาพผิวของตัวเองว่า ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวธรรมดา หรือผิวแพ้ง่าย ทั้ง ๆ ที่การรู้จักสภาพผิวถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลผิวให้มีสุขภาพดี ลองนึกดูว่าหากจริง ๆ แล้วคุณมีสภาพผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น แต่กลับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน ยิ่งใช้ผิวก็ยิ่งแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย หากไม่รู้ตัวแล้วใช้ต่อเนื่องไปนาน ๆ ก็อาจทำให้สุขภาพผิวเสียจนกลับมาดีไม่ได้อีกเลย หรือหากคุณมีสภาพผิวมัน แต่กลับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง โดยเฉพาะพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่จะเห็นปัญหาชัดมาก เพราะล้างหน้าอย่างไรผิวก็ไม่หายมัน เนื่องจากใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับผิวตัวเอง ผลคือหน้ามันสะสม ผิวหมองคล้ำ เป็นสิวเรื้อรัง หมดความมั่นใจจนเสียบุคลิกไปเลย เห็นความสำคัญของการรู้จักสภาพผิวตัวเองหรือยัง?
ผิวแห้ง คือ? “ผิวแห้ง” ใช้เพื่ออธิบายสภาพผิวที่ก่อให้เกิดความมันน้อยกว่าผิวธรรมดา อันเป็นผลมาจากการขาดความมัน, ผิวแห้ง ขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น และสร้างเกราะป้องกันผิวจากสิ่งกระทบจากภายนอก นำไปสู่ความบกพร่องของเกราะคุ้มกันผิวตามธรรมชาติ ผิวแห้ง (Xerosis) มีระดับความรุนแรง และอาจมีรูปแบบที่แตกต่างกัน บางครั้งก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเสมอไปสาหตุของผิวแห้งความชุ่มชื้นของผิวนั้น เป็นผลมาจากปริมานน้ำในผิวชั้นลึก และการสูญเสียน้ำ(เหงื่อ)
อาการผิวแห้งที่พบทั่วไปมีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้
ผิวแห้งเกิดจากอายุที่มากขึ้น (Steatosis) เกิดจากผิวหนังผลิตความมันตามธรรมชาติน้อยลง ลักษณะ Steatosis นี้เกิดขึ้นมากในผู้สูงอายุค่ะ แพทย์บางท่านใช้คำนี้เรียกแทน Xerosis เลยในหลายเคส
ผิวแห้งเกิดจากอากาศหนาว (Winter Itch) มักมีอาการระคายเคืองผิว แต่ไม่ถึงกับมีผื่นคันขึ้น อาการนี้เกิดมากในฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงที่อากาศแห้ง
ผิวแห้งเกิดจากโรคผื่นแพ้กรรมพันธุ์ (Eczema) มักมีอาการแห้งคันถึงขั้นเรื้อรังหรือมีอาการแพ้มากได้ อาการทั่วไปคือมีผิวเป็นผื่นแห้งแข็งตกสะเก็ด หากไม่รักษา จะยิ่งลามมากขึ้น
ผิวแห้งเกิดจากอาการผิวหนังภูมิแพ้ (Dermatitis) ใกล้เคียงอาการ Eczema และ Xerosis เพราะเป็นอาการแห้งคันของผิวเช่นเดียวกัน แต่มักใช้เรียกอาการภูมิแพ้ของผิว ที่ทำให้ผิวอักเสบโดยรวมค่ะ
ผิวแห้งแบบผิวหนังเกล็ดปลา (Ichthyosis) มักเกิดขึ้นกับเด็ก หรือที่มักเรียกกันว่าอาการ “เด็กดักแด้” ผิวแห้งชนิดนี้มีอาการร้ายแรงมากค่ะ มักมีลักษณะแห้งแข็งและเป็นเกล็ดคล้ายเกล็ดปลา
ผิวแห้ง มีสาเหตุเนื่องมาจากต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติ ซีบัม (sebum) ออกมาน้อย ข้อดี ก็คือ ทำให้รูขุมขนของคุณไม่กว้าง และผิวดูละเอียดกว่าผู้ที่มีผิวมันแต่จะได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมทำให้เกิดความแห้งกร้านและ ระคายเคืองมากกว่าผิวประเภทอื่น จึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษผิวคุณอาจยิ่งแห้งมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งอาจนำมาสู่ริ้วรอยแรกที่ปรากฏจำเป็นต้องได้รับการบำรุงให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ เพื่อให้ผิวนุ่มและไม่แห้งกร้าน หรือ ขาดชีวิตชีวา
การดูแลผิวแห้ง สำหรับวัยต่ำกว่า 30 ปี ควรใส่ใจตั้งแต่ ขั้นตอนของการทำความสะอาดผิวด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากไขสบู่และไม่ผสมแอลกอฮอล์ ผิวจะได้ไม่แห้งตึงภายหลังการทำความสะอาดจากนั้นควรปกป้องผิวด้วยการใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นเหมาะสมเป็นประจำจะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื่นนุ่มนวล
การดูแลผิวแห้ง สำหรับวัย 30 ปีขึ้นไปยิ่งอายุมากขึ้นการผลิตน้ำมันธรรมชาติจากผิวก็จะยิ่งน้อยลงทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้วกลับยิ่งแห้งมากขึ้น ริ้วรอยแห่งกาลเวลาต่างๆก็ปรากฏได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วกว่าผิวประเภทอื่นดังนั้นควรใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้น ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลในเรื่องของริ้วรอยด้วยจ้ะ
ผิวจะมีการสูญเสียน้ำผ่าน:
- เหงื่อ: การสูญเสียน้ำจากต่อมเหงื่อเกิดจาก ความร้อน ความเครียดและกิจกรรม
- การสูญเสียน้ำผ่านทางช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง(TEWL: Trans-epidermal water loss): ตามธรรมชาติน้ำจากผิวชั้นลึกจะถูกแพร่กระจายสู่ผิวหนังชั้นบน(Epidermis) ประมาณวันละครึ่งลิตร
ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติก็จะไม่แข็งแรงถูกบุกรุกจากปัจจัยภายนอกได้ง่าย


ผิวแห้ง (Dry Skin) ช่วงของผิวแห้งมีตั้งแต่ระดับที่แห้งเล็กน้อยจนถึงผิวธรรมดา จนถึงผิวที่แห้งมาก ถึงผิวแห้งมากลอกแตกเป็นขุย ความแตกต่างของระดับความรุนแรก สามารถจำแนกโดยทั่วไปได้ดังนี้
ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น (Dry Skin)
ผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย (Extremely dry skin)
พบในบางพื้นที่ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มือ เท้า ข้อศอก และหัวเข่า -มีแนวโน้มที่:
- เกิดความหยาบกร้าน
- มีรอยแตกของผิวปรากฎชัดเจน
- ผิวหนังด้าน
- ผิวลอกเป็นขุย
- มีอาการคันบ่อย
ผิวแห้งมากมักจะพบมากที่สุดในผู้สูงอายุ หรือบริเวณมือที่มีการขาดน้ำอย่างรุนแรง อ่านเพิ่มเติมใน ผิวหยาบกร้าน และแห้งแตกปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกสามารถทำให้ความสามารถในการรักษาความชุ่มชิ้นของผิวหนังเสียสมดุลได้

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://bit.ly/2wonOVA